1.1 ท่านทราบไหมว่า
1.2 ความแตกต่างระหว่างเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์
1.3 เชื้อเอชไอวีแพร่ไปได้อย่างไร
1.4 หลีกเลี่ยงการติดเชื้อเอชไอวีได้อย่างไร
1.5 รู้ได้อย่างไรว่าเรามีเชื้อเอชไอวี
1.6 รู้ได้อย่างไรว่าใครมีเชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์
1.7 เดินทางต่างประเทศและเชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์
1.8 การใช้ล่าม
1.1 ท่านทราบไหมว่า
• เชื้อเอชไอวีเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ได้
• เชื้อเอชไอวีมีผลกระทบต่อทุกคนโดยไม่ขึ้นกับอายุ เพศ เชื้อชาติ พื้นฐานทางวัฒนธรรม หรือศาสนา
• ในโลก:
o มีคนกว่า 34 ล้านคนทั่วโลกติดเชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์ โดยที่มากกว่าครึ่งเป็นผู้หญิงและเด็ก
o การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิงเป็นวิธีหลักในการแพร่เชื้อเอชไอวี
• ในออสเตรเลีย:
o มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์มากกว่า 24,000 คน
o เชื้อเอชไอวีติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม การติดต่อจากเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิงกำลังเพิ่มขึ้น
• มีการบำบัดรักษาต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพสำหรับเชื้อเอชไอวี และผู้ติดเชื้อสามารถมีอายุยืนและสุขภาพดีได้
• การใช้ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดและทวารหนัก และการไม่ใช้เข็มฉีดยาหรืออุปกรณ์ฉีดยาอื่นๆ ร่วมกัน ยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวท่านจากเชื้อเอชไอวี
1.2 ความแตกต่างระหว่างเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์
เชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์มักเขียนเหมือนกับว่าเป็นคำเดียวกัน และมีความหมายอย่างเดียวกัน แต่เชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์เป็นสิ่งที่แตกต่างกัน
เอชไอวีเป็นตัวย่อของคำว่า ฮิวแมน อิมมิวโนเดฟฟิเชียนซี ไวรัส (Human Immunodeficiency virus) คนที่ติดเชื้อเอชไอวี (ภาษาอังกฤษเรียกว่า เอชไอวีโพสสิถีฟว์) ต่อเมื่อไวรัสนี้ได้เข้าสู่กระแสเลือดของคนนั้นๆ
เชื้อเอชไอวีทำลายระบบภูมิคุ้มกันซึ่งคอยปกป้องร่างกายจากโรคต่าง ๆ ถ้าระบบภูมิคุ้มกันของคนไหนถูกไวรัสทำลายลงอย่างรุนแรง คนนั้นจะเป็นโรคเอดส์หรือ AIDS (Acquired Immune Deficiency Syndrome) ซึ่งหมายความว่าคน ๆ นั้นมักจะเกิดการติดเชื้อและอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่โดยปกติร่างกายจะต่อสู้กับอาการเหล่านั้นได้
การตรวจพบเชื้อเอชไอวีไม่จำเป็นต้องหมายความว่าคนนั้นเป็นโรคเอดส์ หรือกำลังจะตาย การบำบัดรักษาจะชะลอการทำลายระบบภูมิคุ้มกันซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวียังสามารถมีสุขภาพที่ดี และดำเนินชีวิตที่แข็งแรงและสมใจได้
1.3 เชื้อเอชไอวีแพร่ไปได้อย่างไร
เชื้อเอชไอวีพบได้ในของเหลวในร่างกาย เช่นเลือด น้ำอสุจิของชาย เมือกในช่องคลอดหญิง และน้ำนมมารดา การติดเชื้อเกิดขึ้นได้เพียงเมื่อของเหลวจากผู้มีเชื้อได้เข้าสู่กระแสเลือดของอีกคนหนึ่ง
แหล่งอ้างอิง
|