วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
จรรยาบรรณของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต
จรรยาบรรณสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต |
- ห้าม
ใส่ รูป ภาพ ที่ มี ขนาด ใหญ่ ไว้ ในเว็บ เพจ ของ ท่าน เพราะ ทำ ให้ ผู้ ที่ เรียก ดู ต้อง เสีย เวลา มาก ใน การ แสดง ภาพ เหล่า นั้น ผู้ ใช้ งานอิน เทอร์เน็ต ส่วน มาก เชื่อม ต่ออิน เทอร์เน็ต ด้วยโมเด็ม ทำ ให้ ผู้ เรียก ดู รูป ภาพ ขนาด ใหญ่ เบื่อ เกิน กว่า ที่ จะ รอ ชม รูป ภาพ นั้น ได้ - เมื่อเว็บ
เพจ ของ ท่าน ต้อง การ สร้าง link ไป ยังเว็บ เพจ ของ ผู้ อื่น ท่าน ควร แจ้ง ให้ เจ้า ของเว็บ เพจ นั้น ทราบ ท่าน สามารถ แจ้ง ได้ ทาง จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ - ถ้า
มีวิ ดี โอ หรือ เสียง บนเว็บ เพจ ท่าน ควร ระบุ ขนาด ของ ไฟล์วิ ดี โอ หรือ ไฟล์ เสียง ไว้ ด้วย (เช่น 10 KB, 2 MB เป็น ต้น) เพื่อ ให้ ผู้ เรียก ดู สามารถ คำน วน เวลา ที่ จะ ใช้ ใน การ ดาวน์ โหลด ไฟล์วิ ดี โอ หรือ ไฟล์ เสียง นั้น - ท่าน
ควร ตั้ง ชื่อ URL ให้ ง่าย ไม่ ควร มี ตัว อักษร ตัว ใหญ่ ปน กับ ตัว อักษร ตัว เล็ก ซึ่ง จำ ได้ ยาก - ถ้า
ท่าน ต้อง การ เรียก ดู ข้อ มูล จาก URL ที่ ไม่ ทราบ แน่ ชัด ท่าน สามารถ เริ่ม ค้น หา จาก domain address ได้ โดย ปกติ URL มัก จะ เริ่ม ต้น ด้วย www แล้ว ตาม ด้วย ที่ อยู่ ของเว็บ ไซด์ เช่น - http://www.nectec.or.th/
- http://www.tv5.co.th/
- http://www.kmitl.ac.th/
- ถ้าเว็บ
ไซด์ ของ ท่าน มี link เชื่อม โยง ไป ยังเว็บ เพจ อื่นๆ ด้วย รูป ภาพ เท่า นั้น อาจ ทำ ให้ ผู้ เรียก ดู ที่ ใช้ โปรแกรมบ ราว เซอร์ ที่ ไม่ สนับสนุน รูป ภาพ ไม่ สามารถ เรียก ชมเว็บ ไซด์ ของ ท่าน ได้ ท่าน ควร เพิ่ม link ที่ เป็น ตัว หนังสือ เพื่อ เชื่อม โยง ไป ยังเว็บ เพจ อื่นๆ ด้วย - ท่าน
ไม่ ควร ใส่ รูป ภาพ ที่ ไม่ มี ความ สำคัญ ต่อ ข้อ มูล บนเว็บ เพจ เนื่อง จาก ไฟล์ ของ รูป ภาพ มี ขนาด ใหญ่ ทำ ให้ เสีย เวลา ใน การ เรียก ดู และ สิ้น เปลือง bandwidth โดย ไม่ จำ เป็น - ท่าน
ควร ป้อง กัน ลิขสิทธิ์ ของเว็บ ไซด์ ด้วย การ ใส่ เครื่อง หมาย trademark (TM) หรือ เครื่อง หมาย Copyright ฉ ไว้ ในเว็บ เพจ แต่ ละ หน้า ด้วย - ท่าน
ควร ใส่ email address ของ ท่าน ไว้ ด้าน ล่าง ของเว็บ เพจ แต่ ละ หน้า เพื่อ ให้ ผู้ เรียก ชม สามารถ สอบ ถาม เพิ่ม เติม หรือ ติด ต่อ ท่าน ได้ - ท่าน
ควร ใส่ URL ของเว็บ ไซด์ ไว้ ด้าน ล่าง ของเว็บ เพจ แต่ ละ หน้า ด้วย เพื่อ เป็น แหล่ง อ้าง อิง ใน อนาคต สำหรับ ผู้ ที่ สั่ง พิมพ์เว็บ เพจ นั้น - ท่าน
ควร ใส่ วัน ที่ ของ การ แก้ ไข ข้อ มูล บนเว็บ ไซด์ ครั้ง สุด ท้าย ไว้ ด้วย เพื่อ ให้ ผู้ เรียก ชม ทราบ ว่า ข้อ มูล ที่ ได้ รับ นั้น มี ความ ทัน สมัย เพียง ใด - ห้าม
ไม่ ให้เว็บ ไซด์ ของ ท่าน มี เนื้อ หา ที่ ละเมิด ลิขสิทธิ์ มี เนื้อ หา ที่ ตี ความ ไป ใน ทาง ลามก อนาจาร หรือ การ ใช้ ความ รุน แรง เนื้อ หา ที่ ขัด ต่อ กฎหมาย ผู้ จัด ทำเว็บ ไซด์ จะ ต้อง เป็น ผู้ รับ ผิด ชอบ ต่อ เนื้อ หา และ ข้อ มูล ทั้ง หมด ในเว็บ ไซด์ นั้น - จรรยา
บรรณ เกี่ยว กับ จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ (email) และ แฟ้ม ข้อ มูล - ผู้
ใช้อิน เทอร์เน็ต ทุก คน มี ตู้ จด หมาย (mailbox) และ อี เมล์ แอดเด รส ที่ ใช้ อ้าง อิง ใน การ รับ ส่ง จด หมาย ความ รับ ผิด ชอบ ต่อ การ ใช้ งาน จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ เป็น เรื่อง ที่ ทุก คน ต้อง ให้ ความ สำคัญ อย่าง มาก เพราะ ระบบ จะ รับ ส่ง จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ โดย อัตโนมัติ หาก มี จด หมาย ค้าง ใน ระบบ เป็น จำนวน มาก จะ ทำ ให้ พื้น ที่ จัด เก็บ จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ ของ ระบบ หมด ไป ส่ง ผล ให้ ระบบ ไม่ สามารถ รับ ส่ง จด หมาย ได้ อีก ทำ ให้ ผู้ ใช้ ทุก คน ใน ระบบ ไม่ สามารถ รับ ส่ง จด หมาย ที่ สำคัญ ได้ อีก ต่อ ไป นอก จาก นี้ ผู้ ใด ผู้ หนึ่ง ส่ง จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ ที่ มี ขนาด ใหญ่ มาก ส่ง แบบ กระจาย เข้า ไป ใน ระบบ เดียว กัน พร้อม กัน หลาย คน จะ ทำ ให้ ระบบ หยุด ทำ งาน ได้ เช่น กัน - ผู้
ใช้ ทุก คน พึง ระลึก เสมอ ว่า เครื่อง คอมพิวเตอร์ ที่ จัด เก็บ ตู้ จด หมาย ของ แต่ ละ คน มิ ได้ มี ผู้ ใช้ เพียง ไม่ กี่ คน แต่ อาจ มี ผู้ ใช้ เป็น พัน คน หมื่น คน ดัง นั้น ระบบ อาจ มี ปัญหา ได้ ง่าย ผู้ ใช้ แต่ ละ คน จะ ต้อง มี ความ รับ ผิด ชอบ ใน การ ดู แล ตู้ จด หมาย ของ ตน เอง ดัง นี้
- ตรวจ
สอบ จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ ของ ตน เอง ทุก วัน และ จะ ต้อง จัด เก็บ แฟ้ม ข้อ มูล และ จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ ของ ตน ให้ เหลือ ภาย ใน โควต้า ที่ ผู้ บริหาร เครือ ข่าย กำหนด ให้ - ลบ
จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ ที่ ไม่ ต้อง การ แล้ว ออก จาก ระบบ เพื่อ ลด ปริมาณ การ ใช้ เนื้อ ที่ ระบบ - ดู
แล ให้ จำนวน จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ ที่ อยู่ ใน ตู้ จด หมาย มี จำนวน น้อย ที่ สุด - ควร
โอน ย้าย จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ ที่ จะ ใช้ อ้าง อิง ภาย หลัง มา ยัง เครื่อง คอมพิวเตอร์ ของ ตน เอง - พึง
ระลึก เสมอ ว่า จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ ที่ เก็บ ไว้ ใน ตู้ จด หมาย นี้ อาจ ถูก ผู้ อื่น แอบ อ่าน ได้ ดัง นั้น ไม่ ควร จัด เก็บ ข้อ มูล หรือ จด หมาย อิเล็กทรอนิกส์ ที่ ไม่ ได้ ใช้ แล้ว ไว้ ใน ตู้ จด หมาย
- หลัง
จาก ผู้ ใช้ ได้ รับ บัญชี (account) ใน โฮส จาก ผู้ บริหาร เครือ ข่าย ผู้ ใช้ จะ ได้ รับ สิทธิ์ ให้ ใช้ เนื้อ ที่ ของ ระบบ ซึ่ง เป็น เนื้อ ที่ เฉพาะ ที่ เรียก ว่า "โฮมไดเรกทอรี" ตาม จำนวน โควต้า ที่ ผู้ บริหาร เครือ ข่าย กำหนด ผู้ ใช้ จะ ต้อง มี ความ รับ ผิด ชอบ ต่อ เนื้อ ที่ ดัง กล่าว เพราะ เนื้อ ที่ ของ ระบบ เหล่า นี้ เป็น เนื้อ ที่ ที่ ใช้ ร่วม กัน เช่น โฮส แห่ง หนึ่ง มี ผู้ ใช้ ร่วม กัน สาม พัน คน ถ้า ผู้ บริหาร เครือ ข่าย กำหนด เนื้อ ที่ ให้ ผู้ ใช้ คน ละ 3 เม กะไบต์ โฮส จะ ต้อง มี เนื้อ ที่ จำนวน 9 จิกะไบต์ โดย ความ เป็น จริง แล้ว โฮส ไม่ มี เนื้อ ที่ จำนวน มาก เท่า จำนวน ดัง กล่าว เพราะ ผู้ บริหาร เครือ ข่าย คิด เนื้อ ที่ โดย เฉลี่ย ของ ผู้ ใช้ เป็น 1 เม กะไบต์ ดัง นั้น ถ้า ผู้ ใช้ ทุก คน ใช้ พื้น ที่ ให้ พอ เหมาะ และ จัด เก็บ เฉพาะ แฟ้ม ข้อ มูล ที่ จำ เป็น จะ ทำ ให้ ระบบ มี เนื้อ ที่ ใช้ งาน ได้ มาก - ผู้
ใช้ ทุก คน ควร มี ความ รับ ผิด ชอบ ร่วม กัน ดัง นี้
- จัด
เก็บ แฟ้ม ข้อ มูล ใน โฮมไดเ รกท รอ รี ของ ตน ให้ มี จำนวน ต่ำ ที่ สุด ควร โอน ย้าย แฟ้ม ข้อ มูล มา เก็บ ไว้ ที่ เครื่อง คอมพิวเตอร์ ของ ตน เอง - การ
แลก เปลี่ยน แฟ้ม ข้อ มูล ระหว่าง เครื่อง คอมพิวเตอร์ ของ ตน และ ผู้ อื่น ใน เครือ ข่ายอิน เทอร์เน็ต ควร จะ ตรวจ สอบ ไวรัส เป็น ประจำ เพื่อ ลด การ กระจาย ของ ไวรัส ใน เครือ ข่าย - พึง
ระลึก เสมอ ว่า แฟ้ม ข้อ มูล ของ ผู้ ใช้ ที่ เก็บ ไว้ บน เครื่อง นั้น อาจ ได้ รับ การ ตรวจ สอบ โดย ผู้ ที่ มี สิทธิ์ สูง กว่า ดัง นั้น ผู้ ใช้ ไม่ ควร เก็บ แฟ้ม ข้อ มูล ที่ เป็น เรื่อง ลับ เฉพาะ ไว้ บน โฮส
- บัญญัติ 10 ประการ
เป็น จรรยา บรรณ ที่ ผู้ ใช้อิน เทอร์เน็ต ยึด ถือ ไว้ เสมือน เป็น แม่ บท ของ การ ปฏิบัติ ผู้ ใช้ พึง ระลึก และ เตือน ความ จำ เสมอ
- ต้อง
ไม่ ใช้ คอมพิวเตอร์ ทำ ร้าย หรือ ละเมิด ผู้ อื่น - ต้อง
ไม่ รบ กวน การ ทำ งาน ของ ผู้ อื่น - ต้อง
ไม่ สอด แนม แก้ ไข หรือ เปิด ดู แฟ้ม ข้อ มูล ของ ผู้ อื่น - ต้อง
ไม่ ใช้ คอมพิวเตอร์ เพื่อ การ โจร กรรม ข้อ มูล ข่าว สาร - ต้อง
ไม่ ใช้ คอมพิวเตอร์ สร้าง หลัก ฐาน ที่ เป็น เท็จ - ต้อง
ไม่ คัด ลอก โปรแกรม ของ ผู้ อื่น ที่ มี ลิขสิทธิ์ - ต้อง
ไม่ ละเมิด การ ใช้ ทรัพยากร คอมพิวเตอร์ โดย ที่ ตน เอง ไม่ มี สิทธิ์ - ต้อง
ไม่ นำ เอา ผล งาน ของ ผู้ อื่น มา เป็น ของ ตน - ต้อง
คำนึง ถึง สิ่ง ที่ จะ เกิด ขึ้น กับ สังคม อัน ติด ตาม มา จาก การก ระ ทำ ของ ท่าน - ต้อง
ใช้ คอมพิวเตอร์ โดย เคารพ กฎ ระเบียบ กติกา และ มี มารยาท
บรรณ เป็น สิ่ง ที่ ทำ ให้ สังคมอิน เทอร์เน็ต เป็น ระเบียบ - ความ
รับ ผิด ชอบ ต่อ สังคม เป็น เรื่อง ที่ จะ ต้อง ปลูก ฝังกฏ เกณฑ์ ของ แต่ ละ เครือ ข่าย จะ ต้อง มี การ วาง ระเบียบ เพื่อ ให้ การ ดำ เนิน งาน เป็น ไป อย่าง มี ระบบ และ เอื้อ ประ โยชน์ ซึ่ง กัน และ กัน บาง เครือ ข่าย มี บท ลง โทษ ที่ ชัดเจน เช่น การ ปฏิบัติ ผิด กฎ เกณฑ์ ของ เครือ ข่าย จะ ต้อง ตัด สิทธิ์ การ เป็น ผู้ ใช้ ของ เครือ ข่าย ใน อนาคต จะ มี การ ใช้ เครือ ข่าย คอมพิวเตอร์ เป็น จำนวน มาก จรรยา บรรณ จึง เป็น สิ่ง ที่ ช่วย ให้ สังคมอิน เทอร์เน็ต สงบ สุข หาก มี การ ละเมิด อย่าง รุน แรง กฎหมาย จะ เข้า มา มี บท บาท ต่อ ไป - จรรยา
บริการบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต เป็นแหล่งที่ใช้ในการเก็บข้อมูลจำนวนมาก ที่เราสามารถค้นคว้า และรับส่งข้อมูลไปมา ระหว่างกันได้ อินเทอร์เน็ตจึงมีประโยชน์สำหรับยุคสังคมและข่าวสาร ในปัจจุบันอย่างมาก อินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่ เหมือนห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ ส่งข้อมูลที่เราต้องการมาให้ถึงบ้านหรือที่ทำงาน ภายในไม่กี่นาที จากแหล่งข้อมูลทั่วโลก
ลักษณะของบริการต่างๆ บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีอยู่หลาย ประเภทดังนี้
1.ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส (Electronic Mail : E-Mail) เป็นการรับ – ส่งจดหมายถึงกันผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ต การส่งเอกสารข้อความ
มีลักษณะเหมือนการส่งจดหมาย แต่ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานให้เองโดยอัตโนมัติทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว สามารถติดต่อกันได้อย่างทั่วถึงทุกภูมิภาคที่ใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์จะต้องมีที่อยู่ (E-mail address) อัพโหลด (upload)
เดินทางไปที่เครื่องนั้นๆ

จะมีความเป็นระเบียบและแสดงรายละเอียดได้ดีกว่า FTP ซึ่งเสมือนกับตู้บัตรคำในห้องสมุดที่สามารถค้นหาข้อมูล โดยการระบุชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง ชื่อที่เกี่ยวข้อง
2.การถ่ายโอนข้อมูล (File Transfer Protocol : FTP) เป็นบริการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล ข่าวสาร บทความ รวมถึงแฟ้มข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์หนึ่งสู่คอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งในกรณีที่โอนย้ายข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นบนอินเตอร์เน็ตมาลงในเครื่องคอมพิวเตอร์
์ของเราเรียกว่า ดาวน์โหลด (download) ส่วนกระบวนการนำข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ไปไว้ยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นบนอินเตอร์เน็ตเรียกว่า
3. การเรียกใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น (telnet) ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบอื่นๆในที่ห่างไกล ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้อง
4.โกเฟอร์ (gopher) บริการค้นหาไฟล์และฐานข้อมูลเป็นบริการที่คล้ายกับ FTP แต่การจัดเก็บสารบบรายการแฟ้มข้อมูล และไอคอนของโกเฟอร์
5.การสนทนา (chat) และข่าวสาร (Usenet) เป็นการจัดเก็บข่าวสารที่ส่งไปไว้ในคอมพิวเตอร์ที่เป็นศูนย์กลาง โดยที่ทุกคนสามารถเข้าไปอ่านข่าวสาร มีการจัดกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะและแสดง ความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆผ่านทางอินเทอร์เน็ต
6.เวิร์ลไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW) เป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงแหล่งข้อมูลข่าวสารเข้าหากันและครอบคลุมทั่วโลก ลักษณะของข้อมูล
ที่สืบค้นได้จะเป็นเอกสารไฮเปอร์เท็กซ์ที่สร้างด้วยภาษา HTML (Hypertext Markup Language) ซึ่งประกอบด้วยข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว บริการนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากสร้างและแก้ไขง่าย ผู้คนหรือหน่วยงานต่างๆ จึงนิยมนำเสนอข้อมูลหรือขายสินค้าด้วยบริการนี้ การเข้าถึงข้อมูลแต่ละแห่งเปรียบเสมือนการเยี่ยมบ้านของแต่ละคนเราจึงมักได้ยินคำว่าโฮมเพจ (Homepage) หรือบ้านของแหล่งข้อมูลแต่ละแห่งและสามารถเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจ(Webpage) อื่นๆได้อีก

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย

โมเด็ม (Modem)
โมเด็มเป็นฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณแอนะล็อกให้เป็นสัญญาณดิจิตัล เมื่อข้อมูลถูกส่งมายังผู้รับละแปลงสัญญาณดิจิตัลให้เป็นแอนะล็อก เมื่อต้องการส่งข้อมูลไปบนช่องสื่อสาร กระบวนการที่โมเด็มแปลงสัญญาณดิจิตัลให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก เรียกว่า มอดูเลชัน (Modulation) โมเด็มทำหน้าที่ มอดูเลเตอร์ (Modulator) กระบวนการที่โมเด็มแปลงสัญญาณแอนะล็อก ให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก ให้เป็นสัญญาณดิจิตัล เรียกว่า ดีมอดูเลชัน (Demodulation) โมเด็มหน้าที่ ดีมอดูเลเตอร์ (Demodulator)โมเด็มที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันมี 2 ประเภทโมเด็กในปัจจุบันทำงานเป็นทั้งโมเด็มและ เครื่องโทรสาร เราเรียกว่า Faxmodem

อุปกรณ์หลายชนิดสามารถถือว่าเป็นโมเด็มได้ แต่โมเด็มประเภทที่แพร่หลายที่สุดคือโมเด็มที่แปลงสัญญาณแอนะล็อกให้เป็นสัญญาณดิจิทัลและสัญญาณดิจิทัลให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก ซึ่งใช้ในการสื่อสารโทรคมนาคมหรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่นเปลี่ยนสัญญาณดิจิทัลจากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายให้เป็นสัญญาณเสียงที่ส่งผ่านในสายโทรศัพท์แบบดั้งเดิม และทำหน้าที่แปลงสัญญาณเสียงกลับมาเป็นข้อมูลดิจิทัลในอีกด้านหนึ่งของผู้รับสัญญาณลูกข่ายหรือส่งจากลูกข่ายกลับไปยังแม่ข่าย
ปัจจุบันมีโมเด็มชนิดต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย เช่น เคเบิลโมเด็ม, ADSL โมเด็ม, โมเด็มที่ใช้รับสัญญาณไมโครเวฟ เป็นต้น

สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)